บันทึกชีวิตสารวัตรจ๊าบ (๑๕ - ตอนจบ) ถอดรหัส ๗ ตุลา (Methee in 7 Oct 2551)

การชุมนุมย่างเข้าสู่เดือนตุลาคม 2551 ดูเหมือนสื่อมวลชนจะมุ่งความสนใจไปที่การเตรียมแถลงนโยบายรัฐบาลของสมชาย วงศ์สวัสดิ์, การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. สื่อหลายฉบับมองว่า พันธมิตรมีคนมาร่วมชุมนุมน้อยลงเรื่อยๆ คงจะเรียกคนออกมาชุมนุมมากๆไม่ได้อีกแล้ว แต่ในวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. 5 ต.ค. พล.ต.จำลองถูกตำรวจควบคุมตัวที่คูหาเลือกตั้ง และคุณไชยวัฒน สินสุวงค์ก็ถูกจับเป็นคนที่ 2 ช่วงกลางวันของวันนั้น พี่น้องพันธมิตรต่างมุ่งหน้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นจำนวนมาก

สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น แกนนำพันธมิตรประชุมกัน ประกาศนัดรวมพลครั้งใหญ่เพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม ช่่วงนั้น สารวัตรจ๊าบ พ.ต.ท. เมธี ชาติมนตรี กำลังติดต่อประสานงาน ทำธุรกรรมทางการเงินให้ลูกค้าที่สำนักงานตรวจสอบบัญชี "เมธีการบัญชี" ซึ่งยังมีงานอีกหลายอย่างที่ต้องดำเนินการ แต่เสียงเรียกรวมพลจากทำเนียบรัฐบาลทำให้สารวัตรจ๊าบ ต้องยอมขัดใจพี่น้อยอีกครั้ง

" แม่... เราต้องไปทำหน้าที่เพื่อชาตินะ"




สารวัตรจ๊าบมักจะพูดเช่นนี้ทุกครั้ง ซึ่งพี่น้อยก็เถียงไม่ออกทุกที สารวัตรจ๊าบจึงเซ็นต์มอบอำนาจให้พี่น้อยทำธุรกรรมทางการเงินแทน


ก่อนสารวัตรจ๊าบออกเดินทาง แม่บ้านรีดเสื้อผ้าหลายชุดให้สารวัตรจ๊าบ ซึ่งเป็นชุดที่จะสวมและพับใส่เป้เข้า กทม. ก่อนออกจากบ้าน สารวัตรจ๊าบพูดกับแม่บ้านว่า



"พี่ไปนานนะ ชนะถึงจะกลับ ไม่ชนะไม่กลับ"


"สาธุ คราวนี้ขอให้ชนะเถอะนะ จะได้อยู่กับครอบครัวสักที"


ที่ผ่านมา สารวัตรจ๊าบออกจากบ้านไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรอยู่บ่อยๆ มีเวลาอยู่กับครอบครัวเพียงไม่กี่วัน ก็ต้องเดินทางอีกแล้ว


เย็นวันนั้น สารวัตรจ๊าบขึ้นรถทัวร์เข้า กทม. กับป้าสำเนียง


ช่วงค่ำ 6 ต.ค.2551 แกนนำพันธมิตรมีมติให้แกนนำรุ่นสอง เคลื่อนขบวนจำนวนหนึ่งออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปปิดล้อมรัฐสภา หลังจากที่แกนนำรุ่นหนึ่งประกาศขอฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนว่าจะไปปิดล้อมรัฐสภา ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เสียงมือตบที่ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ จากนั้น กลุ่มที่อยู่มัฆวานก็เริ่มเดินขบวน พี่น้องที่ชุมนุมอยู่บริเวณใกล้เคียงก็เข้ามาสมทบ เดินตรงไปที่มิสกวัน ออกไปตรงบริเวณลานพระรูปทรงม้า ทุกคนเดินออกไปด้วยความร่าเริง เบิกบาน ร้องเพลง เดินไปเต้นไปจนถึงหน้ารัฐสภา ทำการปิดล้อมประตูทางเข้าออก 3 ประตู


สารวัตรจ๊าบกับป้าสำเนียงเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เข้ามาสมทบกับกลุ่มสมัชชาประชาชนและเครือข่ายพันธมิตรภาคอีสาน ได้เข้าร่วมประชุมวางแผนและประเมินสถานการณ์ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า จากสามแยกพิชัยตรงเข้าประตูประสาทเทวสิทธิ์ด้านข้างถนนราชวิถี จุดนี้จะถุกบุกง่ายที่สุด ดังนั้น กำลังสนับสนุนของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรภาคอีสานจะเคลื่อนกำลังไปที่ลานพระรูป มีรถบรรทุก 6 ล้อเป็นเวทีเคลื่อนที่ พร้อมเคลื่อนขบวนทันทีที่ได้รับคำสั่ง


ยิ่งดึก คนยิ่งแน่น มีการปราศรัยตลอดทั้งคืน ก่อนเวลาตี 2 ตำรวจเริ่มเคลื่อนกำลังพลเข้ามาในพื้นที่ ค่อยๆรุกเข้ามาทีละคืบๆๆๆ แกนนำ ผู้ปราศรัยขึ้นพูดบนเวทีสลับผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปจากเวทีมัฆวาน มาทำเนียบ ไปรัฐสภา หลายคนประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ


ตี 5 ตำรวจตั้งแถว เป็นตำรวจในชุดปราบจลาจล มีโล่มือ มีแก๊สน้ำตา ปืนลูกซองยาว ค่อยๆเคลื่อนกำลังมาอย่างเงียบๆ ตั้งจุดรวมพลที่ด้านหน้าแนวบังเกอร์ของพันธมิตรตรงถนนพิชัยและถนนราชวิถี จากนั้นก็ค่อยๆเดินฝ่าแนวกั้นรั้วลวดหนาม และยางรถยนต์เข้ามา พันธมิตรก็ลุกฮือยืนรวมกันเป็นกำแพงมนุษย์ต่อจากแนวยางรถยนต์ หลังจากนั้นตำรวจจึงเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมทันที


ผู้ชุมนุมต่างแตกกระจายวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น หลายคนหยิบแว่นตา ผ้าปิดปากปิดจมูกมาปิดหน้า มีการลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นรถผ่านด้านหน้าสภาออกไปทางด้านลานพระบรมรูปทรงม้า ผ่านหน้าสารวัตรจ๊าบไป ทำให้กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรภาคอีสานประชุมเครียด และตกลงที่จะเคลื่อนขบวนไปโอบล้อมตำรวจให้ถอยจากสามแยกพิชัย


ช่วงเวลา 8 นาฬิกา สารวัตรจ๊าบนำกำลังคนประมาณ 500 คน จากลานพระบรมรูป จัดแถวการ์ด คล้องแขนเป็นแถวโดยสารวัตรจ๊าบเดินนำหน้า ผ่าน บชน. เดินไปตามถนนศรีอยุธยา เลี้ยวขวาเข้าถนนครราชสีมา ผ่านแยกการเรือนตัดถนนราชวิถี ตรงไปที่สี่แยกถนนนครราชสีมา เลี้ยวขวาเข้าถนนสุโขทัย


ภาพการลำเลียงผู้บาดเจ็บ บางคนขาขาด บางคนโดนสะเก็ดระเบิดจนเป็นแผลฉกรรจ์ มีเศษชิ้นเนื้อ นิ้วมือ รอยเลือดหลายแห่ง ช่วง 10 นาฬิกา สารวัตรจ๊าบจึงโทรศัพท์ไปหาพี่น้อย สั่งงานกับพันธมิตรบุรีรัมย์เป็นครั้งสุดท้าย...


"แม่.. พี่น้องเราแขนขาขาดระเนระนาดขนาดนี้ บุรีรัมย์จะใจดำเกินไปมั้ยที่จะไม่ประกาศจัดรถบัสเอาคนมาสนับสนุนที่กรุงเทพฯ พ่อได้ประสานงานกับเฮียตี่แล้ว ใครที่มีเงินให้ออกมาสำรองก่อน เสร็จงานแล้วเราค่อยไปแบ่งค่าใช้จ่ายกัน"


พี่น้อยตอบว่า "ได้" แล้วโทรคุยกับเฮียตี่ และโทรมาที่เวทีใหญ่ที่ทำเนียบฯให้ประกาศบอกพันธมิตรบุรีรัมย์ มีรถออกที่หน้าบ้านสารวัตรจ๊าบ เต็มออก เต็มออก!! แล้วพี่น้อยก็รีบไปจัดการธุระเรื่องการโอนบ้านจัดสรรให้ครูคนหนึ่ง โดยให้เพื่อนที่เป็นที่ดินอำเภอช่วยดำเนินการให้ พอถึงช่วง 15 นาฬิกา พี่น้อยพร้อมกับเพื่อนอีก 6 คนก็ขับรถเข้า กทม.


ช่วง 11 นาฬิกา กำลังพลของพันธมิตรภาคอีสานซึ่งสารวัตรจ๊าบเดินนำหน้าขบวน เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณหน้าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ติดที่ทำการพรรคชาติไทย จุดนี้มีตำรวจตรึงกำลังอย่างหนาแน่น กันไม่ให้ขบวนผ่านเข้าสามแยกพิชัย แกนนำอีสานจึงปราศรัยกดดันให้ตำรวจยอมเปิดทาง ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนดันเข้าไป ตำรวจถอยจากสามแยกพิชัยมาที่ถนนอู่ทองใน จนถึงช่วง 12.30 น. พันธมิตรเคลื่อนพลปิดประตูทางเข้าออกรัฐสภาได้ทั้ง 3ประตู


ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มีตำรวจตั้งแถวอยู่ บางช่วงก็ยิงแก๊สน้ำตาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีพี่น้องพันธมิตรฝ่าด่านตำรวจมาที่หน้ารัฐสภาได้ จนถึงช่วงบ่าย 3 บริเวณลานพระรูปทรงม้าเกิดชุลมุน ฝ่ายตำรวจปราบจลาจลมีการเคลื่อนไหวเกือบทุกมุม ภายในรัฐสภา มีความพยายามให้ ส.ส.ออกจากที่นั่น และมีข่าววงในว่ารัฐบาลสั่งสลายการชุมนุมเพื่อเปิดทางให้ ส.ส.ออกจากรัฐสภา แกนนำพันธมิตรรู้ข่าววงใน เลยตัดสินใจปิดล้อม ไม่ยอมให้ออกมา ให้การ์ดและผู้ชุมนุมช่วยกันขนขวดน้ำจำนวนมากมาขวางทางเข้าไปสามแยกพิชัย


ช่วงหนึ่ง สารวัตรจ๊าบโทรหาพี่น้อย ในช่วงที่พี่น้อยขับรถผ่านอำเภอนางรอง เกือบจะถึงตัวอำเภอหนองกี่

"ลูกค้าจะมาแจ้งจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน โทรมาหรือยัง เขาโทรมาหาพ่อนะ พ่อบอกให้โทรหาแม่"


"ยังไม่ได้โทรมา แม่กำลังเดินทางอยู่นะ"


สัญญาณโทรศัพท์เริ่มขาดๆหายๆ


"พ่อไม่ได้ยินแล้วนะ แค่นี้ก่อน"


สารวัตรจ๊าบนำคนมาขนขวดน้ำช่วย ในช่วงเวลานั้นตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาไม่ต่ำกว่า 20 นัด เข้าใส่ฝูงชนบริเวณแยกสะพานซังฮี้ถึงแยกการเรือน เพื่อเตรียมเปิดทางให้ ส.ส.ออกจากรัฐสภา


ข่าวคราวเหตุการณ์ชุลมุนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้แกนนำภาคอีสานประกาศจะนำขบวนคนเคลื่อนไปถนนอู่ทองใน เพื่อไปบริเวณลานพระรูป แต่รถเครื่องเสียงจะเลี้ยวไปเติมน้ำมันในจุดที่ใกล้ที่สุด เพราะน้ำมันปั่นเครื่องเสียงหมด บริเวณนั้นเกิดความวุ่นวายหลายจุด มีคนสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์รับจ้างมาจอดที่ฝั่งตรงกันข้ามที่ทำการพรรคชาติไทยกว่า 30 คัน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะจอดในรั้วกองพันมหาดเล็กรักษาพระองค์ และมีไม่เกิน 10-15 คัน ในขณะที่แยกการเรือน ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาอยู่นั้น ที่แยกขัดติยาณี เกิดระเบิดที่รถจี๊ปหน้าที่ทำการพรรคชาติไทย แรงระเบิดพุ่งขึ้นฟ้าสูงนับ 10 เมตร ผู้คนแตกกระเจิงออกจากจุดนั้น


พี่น้อยขับรถมาถึงสระบุรี แวะเข้าพักรถที่ร้านอาหารในปั้มน้ำมัน นั่งทานอาหาร ดูข่าวจากทีวี เห็นรถจี๊ปเชโรกีกำลังลุกไหม้

+ + ++ + +


ข่าวในทีวีรายงานเหตุระเกิดรถจี๊ปมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง สื่อบางแห่งบอกว่า ผู้ตายมีระเบิดมากับตัว และตายในรถ


หลังเกิดเหตุระเบิด มีความุว่นวายหลายอย่างเกิดขึ้น มีคนโทรหาสารวัตรจ๊าบ แต่ติดต่อไม่ได้ มีการยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาอย่างต่อเนื่อง

ที่หน้าที่ทำการพรรคชาติไทย หลังการดับไฟที่ลุกไหม้รถจี๊ป พบศพผู้ตายนอนอยู่บนฟุตบาธ เนื้อบางส่วนกระเด็นไปไกล 20 เมตร ชิ้นส่วนของร่างกายกระจัดกระจาย เศษเนื้อรวบรวมเป็นร่างกายไม่ได้ มีข่าวจากสื่อบางแห่งประนามไปทั่ว ในเวลาต่อมา เมื่อโรงพยาบาลรามาธิบดีตรวจพบอัณฑะ และบอกว่าผู้ตายเป็นเูพศชาย คำใส่ร้ายกล่าวหายิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม...


อดีต ส.ว.สมบูรณ์ ทองบุราณ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรภาคอีสาน ขึ้นพูดที่เวทีในทำเนียบฯเมื่อช่วงเย็นๆ 7 ต.ค.51 บอกว่า มีเพื่อนของเขาเสียชีวิต แต่ไม่ขอเปิดเผยใดๆทั้งสิ้น ด้วยความน้อยใจที่สื่อหลายฝ่ายรุมประนามผู้เสียชีวิต ทั้งๆที่ไม่หลักฐานใดๆเลยแต่ก็ประนาม ใส่ร้ายตั้งแต่เกิดเหตุ


เกือบ 4 ทุ่ม พี่น้อย เดินทางมาถึงทำเนียบ มีคนบอกว่า เกิดระเบิดมีคนตาย พี่น้อยโทรหาป้าสำเนียง ถามย้ำให้ตอบว่า ใช่สารวัตรจ๊าบมั้ย ป้าสำเนียงไม่กล้ายืนยัน พี่น้อยนึกเป็นห่วงลูกๆที่บ้าน หากรู้ว่าสารวัตรจ๊าบผู้เป็นพ่อเสียชีวิต จะเสียใจมากขนาดไหน จึงตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับบ้านในคืนนั้น ป้าสำเนียงขอติดรถกลับบุรีรัมย์ด้วย การปล่อยให้พี่น้อยขับรถกลับบุรีรัมย์คนเดียวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ไม่ดีแน่ๆ ป้าสำเนียงจะช่วยเป็นเพื่อนคุยตอนเดินทางและคอยปลอบใจให้สติ


8 ต.ค.2551 เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ผู้เสียชีวิตที่หน้าพรรคชาติไทย คือ สารวัตรจ๊าบ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี !! เป็นอดีตนายตำรวจ, เป็นหัวหน้าการ์ดพันธมิตรภาคอีสาน สื่อบางแห่ง พยายามนำเสนอข่าว ภาพหลักฐานในที่เกิดเหตุ อธิบายชี้นำว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนวางระเบิดเอง, นำระเบิดมาเองในบางเวบไซต์มีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดนำมาเผยแพร่ ตัดต่อ เรียงลำดับเหตุการณ์ให้ข้อมูลเพื่อชี้นำว่า เป็นการวางระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์


แต่สิ่งที่สื่อเหล่านั้น เวบไซต์หลายแห่ง ไม่ได้กล่าวถึงเลย คือ

1. สารวัตรจ๊าบไม่นิยมความรุนแรง ยึดถือความถูกต้อง ยุติธรรม
2. สารวัตรจ๊าบไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องวัตถุระเบิด
3. สารวัตรจ๊าบมีลูกที่ยังเล็ก ต้องเลี้ยงดูจนกว่าจะเติบโต
4. สารวัตรจ๊าบสายตาทั้งสั้น ทั้งเอียง แค่การเปลี่ยนหลอดไฟ พี่น้อยยังต้องทำเอง
5. สารวัตรจ๊าบมักจะยืนอยู่แถวหน้าขบวนทุกครั้ง ไม่สะพายเป้ หรือกระเป๋า ซึ่งทุกคนมองเห็นได้ง่าย









6. ระเบิดรถจี๊ป แรงระเบิดพุ่งขึ้นฟ้าสูงนับสิบเมตร ระเบิดพุ่งไปข้างบน แต่ที่ใต้พื้นรถ ไม่เสียหายมากนัก ต่างจากเหตุระเบิดโรงแรมที่ปากีสถานในช่วงนั้น พังทั้งแถบ ถ้ามีการใช้ระเบิดที่มีอานุภาพรุนแรงขนาดนั้น ย่อมต้องมองเห็นอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดมาตั้งแต่เริ่มเดินนำขบวนตอน 8 นาฬิกา ซึ่งเดินผ่านด่านตำรวจหลายจุด ...ถ้ามีอุปกรณ์มาจริง ตำรวจคงจับตัวไปตั้งแต่เช้าแล้ว...

7. ภาพจากกล้องวงจรปิด มองเห็นจากมุมระยะไกล แต่ถูกนำมาตัดต่อ และเขียนสรุปเอาเอง

8. หลักฐาน ตัวถังรถจี๊ป หลังคารถจี๊ป ประตูรถ ไม่เคยมีการพูดถึงมากนัก ไม่มีการตรวจสอบหาหลักฐานว่า เป็นระเบิดชนิดใด เหมือนกับความพยายามทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุด้วยการล้างขัด ถู ทาสีทับในหลายจุดที่หน้ารัฐสภาและบริเวณใกล้เคียง ในจุดที่ล้างขัดสีไม่ออก ก็ทาสีทับเอาไว้ในทุกจุดที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้มีหลักฐาน...


เมื่อมีการชันสูตรศพ และต้องมีการยืนยันด้วยการตรวจ DNA คุณพ่อของสารวัตรจ๊าบซึ่งเป็นเบาหวาน คุณแม่ซึ่งเป็นผู้สูงวัย ต้องเข้ามาตรวจ DNA เพื่อรับศพลูกชายที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในชีวิตของสารวัตรจ๊าบ ซึ่งเป็นคนที่พูดน้อยอยู่แล้ว เมื่อต้องเสียชีวิต ยิ่งไม่มีโอกาสพูดแก้ข้อกล่าวหาใดๆเลย


...พี่น้อยและพันธมิตรบุรีรัมย์ ต้องเดินทางเข้า กทม.เพื่อร่วมกับแกนนำและพี่น้องพันธมิตร จัดงานพระราชทานเพลิงศพสารวัตรจ๊าบ พ.ต.ท. เมธี ชาติมนตรี ในวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของสารวัตรจ๊าบ อายุครบ 39 ปีพอดี ณ วัดโสมนัสวิหาร มีพี่น้องพันธมิตรมาร่วมงานอย่างล้นหลาม แน่นไปทั่วบริเวณรอบๆเมรุ มีการถ่ายทอดสดพิธีพระราชทานเพลิงศพของสารวัตรจ๊าบทาง ASTV ตลอดพิธี นับเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดพิธีพระราชทานเพลิงศพเผยแพรไปทั่วโลก


ก่อนหน้านั้น 1 วัน คือ 13 ตุลาคม 2551 พี่น้อย เพ็ญพิมล ใสงาม ได้ขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรในทำเนียบฯ ในช่วงรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ร่วมกับคุณมาลีรัตน์ แก้วก่า, ประพันธ์ คูณมี เล่าเรื่องราวชีวิตของสารวัตรจ๊าบ ซึ่งได้นำมาเรียบเรียง ถ่ายทอดเนื้อหาอีกครั้งเป็น บันทึกชีวิตสารวัตรจ๊าบ ในที่นี้รวม 15 ตอนจบ...


นี่คือ ความรู้สึกส่วนหนึ่งในวันนั้น....

พี่น้อย : .....ดิฉันไม่เป็นไร เพราะเกิดมาในครอบครัวนักการเมือง ถุกลิขิตให้เป็นอย่างนี้ แต่ครอบครัวชาติมนตรีทำไมต้องถูกลิขิตให้เป็นเช่นนี้ ถ้าเค้าไม่แต่งงานกับดิฉันเค้าจะเป็นอย่างนี้มั้ย เค้าสามารถที่จะเลือกใครแต่งงานก็ได้ เป็นเพราะมาแต่งงานกับดิฉัน ครอบครัวใสงามหรือเปล่า ชีวิตถึงได้หักเหอย่างนี้ สารวัตรจ๊าบคือแก้วตาดวงใจของครอบครัว เด็กบ้านนอกที่สอบติดนายร้อยตำรวจสามพรานถือว่า ที่สุดในชีวิต รับกระบี่จากรพะบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระบี่แตะบ่า ที่สุดในชีวิตของวงศ์ตระกูล....

ดิฉันไม่ต้องมาร้องขอว่าอย่าทำกับเค้าได้มั้ย ดิฉันไม่พูด ไม่แก้ตัว ให้ดูอดีตที่เป็นมาดูวิถีชีวิตของครอบครัวเค้าและการดำเนินชีวิตของเค้าเถอะ ดูเอาเอง มีเวลาดูอีกนาน มีเวลาสอบถามอีกนาน สิ่งที่ดิฉันพูดมาสอบถามตามอำเภอ ถามพี่น้องในเขตเทศบาล มีเวลาถามอีกเยอะ แต่สารวัตรจ๊าบไม่มีเวลาที่จะตอบอีกแล้ว...


ส.ว. มาลีรัตน์ แก้วก่า : ถ้าสารวัตรจ๊าบยังมีชีวิตอยู่ และมีคนกล่าวหา เขาก็จะไม่พูด ไม่ตอบโต้ สมมติว่าใครเขาเข้าใจผิดอย่างไร ไม่ถาม สารวัตรจ๊าบก็ไม่ตอบ แต่เรารู้สึกเจ็บช้ำแทน รู้สึกว่าโลกนี้มันยุติธรรมมั้ย สำหรับคนๆนึงที่ตลอดชีวิตไม่เคยทำเพื่อตัวเอง..... ครอบครัวใสงาม น้องชายการุณถูกยิงตาย เพราะการต่อสู้ให้พี่น้องชาวบุรีรัมย์, พ่อถูกฆ่า, แม่เลี้ยงอยู่กับพ่อก็ถูกฆ่า ชีวิตขมขื่นเหมือนต้องคำสาป


ประพันธ์ คูณมี : วันแรกที่ทราบข่าวเค้าเสียชีวิต ทราบจากตั้ม และมิตรสหายพพันธมิตรในภาคอีสาน พอได้ยินแล้วเสียใจมากที่ไม่มีโอกาสได้พูดคุย ช่วยเหลือเขาในช่วงที่มาร่วมงาน การต่อสู้ โดยส่วนใหญ่น้องๆที่เป็นนักต่อสู้ที่เป็นลูกคนอีสาน ส่วนใหญ่ผมได้รู้จัก ใกล้ชิด ปรึกษาหารือ ให้ข้อคิด แนวทางความรู้ว่า น้องควรจะทำอย่างไร ทำงานอย่างไร แต่กับสารวัตรจ๊าบไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด รู้แต่วีรกรรมกล้าหาญ ทำให้รู้ว่าลูกอีสานที่เป็นนักต่อสู้ มีเกียรติภูมิและมีความยิ่งใหญ่ มีมากมายครับ .......แม้จะมีคนอีสานจำนวนหนึ่ง ตกอยู่ใต้ระบอบทักษิณ แต่อยากจะบอกว่า คนอีสานที่เป็นนักต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติภูมิ มีมากมายจริงๆ พวกเรา คือ เลือดเนื้อเชื้อไขของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อความไม่ถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวต่อระบอบทักษิณ จะสู้เพื่อพี่น้องประชาชน ร่วมกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศต่อไป

.........บันทึกชีวิตสารวัตรจ๊าบ วีรชนกู้ชาติ
.........เรียบเรียงเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสารวัตรจ๊าบ เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 วันการเสียชีวิตของนักรบบุรีรัมย์ท่านนี้.......

-------------------
(C) 2552 เมธี ชาติมนตรี & เพ็ญพิมล ใสงาม & พันธมิตรบุรีรัมย์
Replay the memories by นายบอน 28 ม.ค.2552
-------------------

Comments

0 Responses to "บันทึกชีวิตสารวัตรจ๊าบ (๑๕ - ตอนจบ) ถอดรหัส ๗ ตุลา (Methee in 7 Oct 2551)"

แสดงความคิดเห็น

Video from Burirum



ปิดฉากชีวิตสารวัตรจ๊าบ เปิดฉากการเมืองใหม่
วิีดีโอที่จัดทำขึ้นในงานทำบุญอัฐิ 100 วันสารวัตรจ๊าบ เมื่อ 31 มกราคม 2552 ณ จ.บุรีรัมย์

Clip งานพระราชทานเพลิงศพ สารวัตรจ๊าบ



งานพระราชทานเพลิงศพ ของ สารวัตรจ๊าบ เมื่อ 14 ต.ค.2551 ณ วัดโสมนัสวิหาร กทม.

clip video รวมภาพหายากของสารวัตรจ๊าบ

About

stat



View My Stats