บันทึกชีวิตสารวัตรจ๊าบ (๘) ตัดสินใจลาออกจากตำรวจ

สารวัตรจ๊าบ พ.ต.ท. เมธี ชาติมนตรี เป็นตำรวจที่มีความรับผิดชอบต่องาน รักผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตงฉิน ทำงานจนย้ายมาเป็น สวป. สภ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายในชีวิตราชการ

สารวัตรจ๊าบเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 30 นักเรียนนายร้อยสามพราน รุ่น 46 การได้เข้ารับราชการเป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่ ญาติพี่น้องทุกคน เมื่อเป็นตำรวจ สารวัตรจ๊าบ ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เมื่อต้องตัดสินใจลาออก พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คนในครอบครัวจะเสียใจขนาดไหน...

ทุกอย่าง ต้องมีการเตรียมตัว เตรียมใจ สารวัตรจ๊าบ เตรียมใจจะลาออกตั้งแต่ปี 2546 มาแล้ว ซึ่งก่อนที่เขาจะเข้ามาเป็นตำรวจ ได้มีการเตรียมตัวเตรียมใจไว้เช่นกัน

ย้อนกลับไปในช่วงเรียนชั้นมัธยมศึกษา ด้วยฐานะครอบครัวที่ยากจน ทำให้สารวัตรจ๊าบวางแผนชีวิตในอนาคตว่า ต้องสอบเรียนต่อ สอบอะไรก็ได้ที่มีทุน จบมาได้ทำงานและมีเงินเดือน ในช่วงนั้นสารวัตรจ๊าบตั้งใจจะไปสอบทหารเรือ โดยเดินทางขึ้นรถไปสอบกับเพื่อนหลายๆคน เมื่อเดินทางไกล จึงหลับบนรถ เมื่อรถแล่นมาถึงที่หมาย รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นเพื่อนๆทยอยลงจากรถจึงลงตามเพื่อน เพื่อนเหล่านั้นไปสมัครสอบนักเรียนนายร้อย สารวัตรจ๊าบจึงไปสมัครตามเพื่อน

ผลปรากฏว่า สารวัตรจ๊าบ สอบติด แต่เพื่อนที่ไปด้วยกัน สอบไม่ติดสักคน ซึ่งการสอบครั้งนี้ เป็นการสอบด้วยความบังเอิญ เพราะตั้งใจที่จะไปสอบทหารเรือ ที่มีสัดส่วนของคู่แข่งประมาณ 1 : 30 คน แต่สัดส่วนของคู่แข่งนักเรียนนายร้อยในเวลานั้น ประมาณ 1 : 80 คน แต่ปรากฏว่า สารวัตรจ๊าบ สอบได้ ชีวิตสารวัตรจ๊าบจึงต้องเป็นตำรวจ เพราะไปสมัครสอบทหารเรือไม่ถูก จึงตัดสินใจสมัครตามเพื่อน !!!

เมื่อสอบติดแล้ว จึงเตรียมตัวเตรียมใจ สอบต่อไป ซึ่งต้องมีการสอบว่ายน้ำ สอบวิ่ง เรื่องกีฬานั้น ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะสารวัตรจ๊าบเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาอยู่แล้ว แต่ด้วยฐานะที่ยากจน มีเงินน้อย เมื่อต้องเดินทางเข้ามาสอบ จึงต้องมาพักค้างที่บ้านญาติ คุณแม่ต้องห่อข้าวเหนียวกับปลาเค็มมาให้ ได้กินหลายวัน มาเข้าสอบวันสุดท้ายซึ่งจะต้องสอบวิ่ง วันนั้น สารวัตรจ๊าบไม่ได้กินข้าว แต่ก็ไม่กล้าพูดว่ายังไม่ได้กิน ออกเดินทางมาเข้าสอบเลย เมื่อวิ่งเสร็จและสอบผ่านแล้ว สารวัตรจ๊าบ เป็นลม...

หิวก็ต้องทน ต้องอด จนสามารถสอบผ่านลุล่วงได้ด้วยดี ผลการสอบเตรียมทหาร สารวัตรจ๊าบสอบได้ลำดับที่ 14 !!!! (แก้ไขข้อมูล เมื่อ 16-ม.ค. 2552 15.26 น.)

โดยบุคลิกแล้ว สารวัตรจ๊าบเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด มีความอดทนอดกลั้นสูง เมื่อเจอข้อกล่าวหาในช่วงที่เป็นตำรวจ หรือในเหตุการณ์ 7 ตุลา 51 เขาไม่มีโอกาสได้ชี้แจงความจริง โดยเฉพาะในเหตุการณ์ 7 ตุลา เขายิ่งไม่มีโอกาสที่จะพูดได้อีกเลย

ชีวิตของสารวัตรจ๊าบ ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมามากมาย มีการฝึกใจเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้สามารถยอมรับความเป็นจริงที่ว่า คนย่อมมีกิเลส อยากเจริญก้าวหน้า มีตำแหน่งสูงขึ้น อยากเป็นใหญ่ แล้วคิดว่าจะแก้ปัญหาประเทศชาติได้ แต่ความจริงแล้ว เมื่ออยากก้าวหน้าต้องเข้าหาคนช่วยสนับสนุน จึงต้องเป็นหนี้บุญคุณกับหลายๆคน เมื่อมีแต่ติดบุญคุณ จึงไม่มีทางที่จะทำงานเพื่อชาติ สร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนได้

เมื่อเกิดปัญหาถูกย้ายบ่อยๆ พี่น้อย-ภรรยาจึงตัดสินใจพาสารวัตรจ๊าบไปเรียนบัญชี จนได้รับ ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ (การเงินและบัญชี) จากมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จ.นครราชสีมา

"ชีวิตการทำงานของพ่อไม่รุ่งแล้วล่ะ ลองหาทางเลือกใหม่มั้ย เพื่อจะได้อยู่กับลูกกับครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าพ่อได้เป็นนายพล คำว่านายพลยกให้ลูกไม่ได้ แต่สำนักงานบัญชี อยู่ได้ชั่วลูกชั่วหลาน เป็นมรดกตกทอดให้ลูกได้นะ..."

ในที่สุด สารวัตรจ๊าบ ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ เมื่อ 25 ตุลาคม 2548 ต่อมาอีก 10 วัน พี่น้อยก็คลอดลูกสาวคนที่ 2 "น้องจันทร์เจ้า" ออกมาให้สารวัตรจ๊าบได้ชื่นชม.....

-------------------
© 2552 เมธี ชาติมนตรี & เพ็ญพิมล ใสงาม & พันธมิตรบุรีรัมย์
Replay the memories by นายบอน 15 ม.ค.2552
-------------------