บันทึกชีวิตสารวัตรจ๊าบ (๑๔) บุคคลที่นำการเปลี่ยนแปลง

เรื่องราวหลายตอนของสารวัตรจ๊าบ พ.ต.ท. เมธี ชาติมนตรี ผู้ซึ่งศรัทธาใน "เช กูวารา"นักปฏิวัติประชาชนแนวมาร์กซิสต์ชาวอาร์เจนตินา บุคลิกลักษณะของสารวัตรจ๊าบเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง มีอุดมการณ์ และเป็นบุคคลที่นำการเปลี่ยนแปลง มีคำถามมาว่า นำการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เคยเห็นรูปสารวัตรจ๊าบยืนนำหน้าขบวนการ์ดพันธมิตร ช่วงที่เป็นตำรวจ มีเพียงแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้บังคับบัญชาไม่เห็นด้วย

บทบาทของสารวัตรจ๊าบที่นำการเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องเริ่มย้อนกลับไปในช่วงเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งในช่วงนั้นสารวัตรจ๊าบร่วมเป็นแกนนำประท้วง เรื่องประกอบเลี้ยงไม่เป็นธรรม

ในโรงเรียนเตรียมทหาร มีการจัดอาหาร 3 มื้อ นักเรียน 1,000 คน ประกอบเลี้ยง 3 มื้อ พอถึงเสาร์ อาทิตย์ กลับบ้าน 800 คน เหลืออยู่ 200 คน แต่ตั้งเบิกงบเต็มจำนวน 1,000 คน ค่าอาหารคนละ 45 บาท คูณ 6 มื้อ คูณด้วย 800 คน เป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ที่คนครัวกินเปอร์เซ็นต์อาหาร นักเรียนเตรียมทหารหลายคนเห็นด้วยกับการประท้วงความไม่ถูกต้องนี้ และหลายคนก็อยากกินกับข้าวที่ดีกว่านี้

ในขณะที่คนทำครัวกินเปอร์เซ็นต์ค่าอาหารในวันเสาร์ อาทิตย์ ร่ำรวยมีรถเก๋งนั่ง แต่นายทหารรุ่นพี่ปี 4 หลายคนที่ถูกคัดส่งมาปกครองรุ่นน้อง เลิกงานกลับไปขับแท็กซี่หารายได้พิเศษตอนกลางคืน ทำไมไม่จัดสวัสดิการให้นายทหารเหล่านั้น ถ้าเอาเงินที่ถูกกินเปอร์เซ็นต์อาหารมาจัดสวัสดิการ น่าจะดีขึ้น

เมื่อแกนนำประท้วงกระจายแนวคิดออกไป มีเหล่าตำรวจ 200 นาย เหล่าทหารกว่า 100 นายร่วมประท้วงด้วย ตอนเช้านักเรียนเรียมทหารนั่งโต๊ะอาหาร เมื่อถูกสั่งรับประทาน แต่ทุกคนนั่งนิ่งๆ

เมื่อขัดคำสั่ง นายทหารจึงสั่งแบกโต๊ะวิ่งรอบสนามฟุตบอล พอกลับมานั่ง ถูกสั่งให้กิน ก็ไม่กิน หัวหน้าชั้นจึงบอกว่า ขอประท้วงเรื่องการประกอบเลี้ยงที่ไม่เป็นธรรม จนผู้บังคับบัญชารับทราบ ต่อมามีการปรับปรุงดีขึ้นกว่าเดิม

ในช่วงที่สารวัตรจ๊าบเรียนอยู่ปี 1 โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ช่วง พ.ศ.2532 - 2533 ได้มีการรวมหัวประท้วง "ระบบจวก" ซึ่งเป็นการลงโทษพร้อมกัน เมื่อคนหนึ่งทำผิด จะถูกสั่งลงโทษ ต้องรับผิดทั้งหมด สารวัตรจ๊าบและกลุ่มผู้ประท้วงมองเห็นว่า ระบบนี้ไม่สามารถทำให้คนเป็นคนดีได้ ทำให้หลายคนเสียเวลามารับการลงโทษ เสียเวลาอ่านหนังสือ เสียการนัดหมาย จึงมีการรวมตัวประท้วงระบบจวก

กลุ่มผู้ประท้วงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์เป็นนักเรียนปี 1 ซึ่งได้นัดแต่งชุดขาวครั้งสุดท้าย ก้าวออกจากโรงเรียนเย็นวันศุกร์ ซึ่งถือว่าขัดคำสั่งและขัดต่อระเบียบ เมื่อก้าวพ้นออกมาก็เท่ากับหมดสิทธิ์เป็นตำรวจ แต่ปรากฏว่า ทางโรงเรียนไม่เอาผิด ส่งจดหมายถึงพ่อแม่ของนักเรียนแต่ละคนให้ตามลูกกลับมาเรียนต่อ นับจากนั้นมาระบบจวกก็ลดลง สมเหตุสมผลมากขึ้น

นอกจากช่วงสมัยเรียนแล้ว หลังจากสารวัตรจ๊าบลาออกจากราชการ ได้เข้ามาทำงานการเมืองภาคประชาชน ออกตระเวนเสาะแสวงหาคนในพื้นที่บุรีรัมย์ที่มีแนวคิดเดียวกัน รวมตัวเป็นกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดิน และกลายเป็นพันธมิตรบุรีรัมย์ในเวลาต่อมา

สารวัตรจ๊าบเป็นคนที่รักความถูกต้อง ความเท่าเทียมกันในสังคม ส่วนหนึ่งได้มาจากคำแนะนำสั่งสอนของคุณพ่อคุณแม่ แม้จะอยู่ในครอบครัวที่ขัดสน แต่คุณพ่อซึ่งเป็นครู คุณแม่เป็นชาวนา ได้สั่งสอนลูกชายคนนี้ไม่ให้เป็นคนเห็นแก่ตัว จากเรื่องในชีวิตประจำวันอย่างเช่น การกินข้าว คนอีสานต้องปั้นข้าวเหนียวกระติบ พ่อแม่ของสารวัตรจ๊าบสอนไว้ว่า อย่าหยิบข้าวตรงกลางเอาสะดวก ต้องหยิบข้าวขอบกระติกที่แข็งด้วย

โปรดติดตามตอนต่อไป

-------------------
©2552 เมธี ชาติมนตรี & เพ็ญพิมล ใสงาม & พันธมิตรบุรีรัมย์
Replay the memories by นายบอน 22 ม.ค.2552
-------------------